Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.


เมื่อเวลาผ่านไป การใช้คำพูดของคนเราก็เริ่มรุนแรงมากขึ้น และความเกลียดชังก็เกิดขึ้นง่ายมากเช่นกัน ขนาดบางครั้งแค่หัวเราะ ยังมีคนเอาไปนินทาได้เลย ซึ่งวันนี้ Gangbeauty จะมาเฉลยให้ฟังว่าสิ่งที่สังคมปัจจุบันเกลียดมาก ไม่พอใจมากที่สุดคืออะไร เป็นสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันเลยรึเปล่านะ!

อันดับ 5 รูปภาพโปรไฟล์ที่ถ่ายใกล้เกินไป


www.flickr.com


www.caltech.edu
          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแค่รูปโปรไฟล์ที่ถ่ายใกล้เกินไปนั้นมีผลมากต่อความไม่พอใจของคนบนโลกโซเชียล เนื่องจากรูปที่ถ่ายในระยะโคลสอัพแบบนี้ ทำให้จมูกดูใหญ่ หนา หูเล็กลง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จาก Caltech ก็ได้เผยว่าภาพแบบนี้ทำให้ดูเป็นคนปลิ้นปล้อน ไม่จริงใจ ไม่น่าเชื่อถือ ก้าวร้าว แล้วก็ไม่น่าสนใจ อีกทั้งยังรู้สึกเหมือนถูกคุกคาม ถูกรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว ไม่ต่างจากโดนคนอื่นยืนประชิดตัวในชีวิตจริง ซึ่งเป็นความรู้สึกไม่ชอบจากกลไกการป้องกันตัวเองอัตโนมัติของมนุษย์นั่นเอง

อันดับ 4 ตาปรือตอนถ่ายรูป


www.flickr.com
          การทำตาปรือนั้น แม้จะดูเซ็กซี่บ้างในบางกรณี แต่ไม่ใช่เสมอไป เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิจัยให้อาสาสมัครทั้งชายและหญิงดูภาพผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นภาพระหว่างเขาลืมตาเต็มดวง กับหรี่ตา ผลปรากฎว่าคำตอบที่ได้จากทั้งชายและหญิง ในรูปหรี่ตานั้น ไปทางลบเกือบทั้งหมด เพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนพวกอ่อนแอ อ่อนแรง ดูแก่และไม่มีวุฒิภาวะทางเพศที่น่าดึงดูดใจมากพอนั่นเอง

อันดับ 3 แต่งตัวกึ่งชายกึ่งหญิง


www.flickr.com

www.newscientist.com
          แม้ปัจจุบันนี้ ช่องว่างระหว่างเพศจะน้อยลงไปมาก และโลกของเราก็ดูจะมีการเปิดใจยอมรับเพศที่สาม สี่ ห้ามากขึ้นแล้ว ทว่าในความเป็นจริง บุคคลที่เป็นชายไม่จริง หญิงไม่แท้ กลับยังคงดูไม่น่าเชื่อถือและดูไม่ค่อยดีในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ เรื่องนี้ นักวิจัยได้ทำการทดสอบโดยการให้อาสาสมัครคละเพศ คุยทางออนไลน์กับบุคคลที่ใช้รูปโปรไฟล์แตกต่างกันไป ทั้งผู้หญิงผมเปีย รูปกึ่งชายกึ่งหญิง และรูปขวดที่มีหน้าคน ผลปรากฎว่าทุกคนมองเห็นไปในทางเดียวกันหมด คือรูปกึ่งชายกึ่งหญิงดูไม่น่าเชื่อถือที่สุดแล้ว ไม่น่าเชื่อถือหนักกว่าโปรไฟล์รูปขวดหน้าคนซะอีก

อันดับ 2 เสียงแมนหรือสาวเกินไป


www.flickr.com
          ความจริงผู้หญิงทั้งโลกนั้นชอบผู้ชายเสียงอบอุ่น ทุ้ม นุ่มลึก และผู้ชายทั้งโลกก็ชอบผู้หญิงเสียงหวานใส เจื้อยแจ้ว แต่สิ่งเหล่านั้นมันก็เป็นแค่เพียงทฤษฎีและความชอบเฉยๆ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ทั้งคนที่มีเสียงผู้ชายจัด และผู้หญิงจ๋ามากๆ ถึงจะดูน่าสนใจมากแค่ไหน ก็ทำให้รู้สึกเหมือนบุคคลนั้นๆ มีแนวโน้มจะนอกใจคู่รักของตัวเองมากเท่านั้น โดยนักวิจัยได้ทำการบันทึกเสียงผู้ชายและผู้หญิงมาทำการตัดแต่งให้เป็นเสียงในอุดมคติ จากนั้นก็ให้อาสาสมัครฟัง ทุกคนไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาเจ้าของเสียงมาก่อน แต่ก็มีความรู้สึกว่าไม่ชอบเหมือนกัน รู้สึกเหมือนจะโดนหลอกยังไงยังงั้นเลย

อันดับ 1 ดีเกินไป


www.flickr.com
          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนที่ดีเกินไป เป็นบุคคลที่คนอื่นไม่ชอบมากที่สุด โดยจากการวิจัยให้เล่นเกมคอมพิวเตอร์แบบทีม 5 คน อีก 4 คนในทีมเป็นหุ่นยนต์ที่ตั้งค่ามาให้เป็นคนแตกต่างกันไป เช่น ไม่ดีเกินไป ไม่เป็นกลางเกินไป พวกยุติธรรม และคนสุดท้ายคือสุ่มระหว่างเห็นแก่ตัวมาก กับพ่อพระสุดๆ หลังจบเกมเหล่าอาสาสมัครกล่าวไปในทางเดียวกันว่าไม่ชอบคนที่ดีเกินไปและเลวเกินไป เพราะรู้สึกว่าคนพวกนี้มักมีอะไรแอบแฝง ยิ่งถ้าดีเกินไป จะทำให้รู้สึกเหมือนโดนเปรียบเทียบให้ตัวเองดูแย่กว่าเดิม จึงพอสรุปได้ว่าถ้าเราดีเกินไป หรือดูโดดเด่น ออร่าพุ่งมากไป ก็มีแนวโน้มสูงมากที่คนอื่นจะไม่ชอบ แต่อย่างไรก็ตาม การเป็นคนดีมันดีกว่าอยู่แล้วล่ะ

แต่ละอย่าง ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ

Share.