Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.


คนเรามักมีคำพูดติดปาก ซึ่งแต่ละคำก็ส่งผลลัพธ์ดีร้ายแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น คำว่า “ไม่เป็นไร ฉันโอเค” ที่อาจจะดูเป็นคำแสนดี แสดงถึงความอดทนอันสูงส่งของเรา แต่ Gangbeauty จะบอกให้ว่าข้อเสียมันมีไม่น้อยเลย ไม่เชื่อก็ลองอ่านแล้วคิดทบทวนดูสิ!

1. หลอกตัวเอง


www.flickr.com
          เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าเราสามารถโกหกใครก็ได้ แต่ไม่สามารถโกหกตัวเองได้ ทว่าสุดท้ายเราก็ยังเลือกที่จะโกหกตัวเองไปเรื่อยๆ บอกตัวเองซ้ำๆ ว่า “ฉันโอเค ฉันยังไหว” ฝืนหลอกไปแบบนั้นโดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเราแค่กำลัง “ปลอบใจตัวเอง” เท่านั้นเอง เมื่อไหร่ไม่ไหวก็แค่ตอบไม่ไหว เมื่อไหร่ไม่โอเคก็แค่ตอบว่าไม่โอเค มันไม่ยากเกินกว่าจะเคารพความรู้สึกตัวเองหรอก

2. คนอื่นเชื่อว่าเราโอเค


www.flickr.com
          พอคำว่า “ฉันโอเค ฉันไม่เป็นไร” ออกจากปากของเราบ่อย คนรอบตัวเราก็เลยพาลเข้าใจผิดกันไปหมดว่าเราไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ซึ่งผลที่ตามมาอาจจะแย่มากก็ได้ อาจจะได้รับหน้าที่เพิ่มเติม งานหลวงงอกเงย งานราษฎร์ทำฟรีก็มีมา ไม่ต้องโทษใคร ไม่ต้องนั่งคิดน้อยใจว่าทำไมไม่มีใครเห็นใจฉันบ้าง ทั้งหมดนี้มาจากคำว่า “ฉันโอเค” ของเรานี่ล่ะ

3. ถูกมองข้าม


www.flickr.com
          หลายครั้งที่คำว่า “ไม่เป็นไร” ถูกกลั่นออกจากปากเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจ อยากให้คนรอบข้างแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเรามากขึ้น แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าคนรอบข้างไม่มีใครเอาเวลามานั่งใส่ใจความรู้สึกคนอื่นมากขนาดนั้นหรอก สุดท้ายก็ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจที่ไม่มีใครเห็นหัวเรา ความจริงควรพูดออกไปเลยตรงๆ ว่ารู้สึกยังไง อาจมีคนให้ความสนใจ ใส่ใจมากกว่าจะละเลยและเพิกเฉยต่อเรานะ

4. สิ้นเปลืองความรู้สึก


www.flickr.com
          บางครั้งคำว่า “ไม่เป็นไร” เกิดขึ้นเพราะเรื่องราวย่ำแย่ในจิตใจกองสุมจนรู้สึกว่าหาทางออกไม่ได้ ซึ่งเมื่อไหร่ที่เราพูดคำนี้ออกมา ก็ไม่ต่างอะไรจากการตอกย้ำตัวเองว่าเรากำลังเป็นอะไรอยู่จริงๆ สุดท้ายก็ต้องพูดคำว่าไม่เป็นไรซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น แถมยังต้องเหนื่อยกับการนั่งปั้นหน้าบอกคนอื่นว่าฉันไม่เป็นไรจริงๆ อีกด้วย

5. ใจด้านชา


www.flickr.com
          จิตใจของเรามีลิมิต มีขีดจำกัด ซึ่งการใช้ความรู้สึกดีๆ ที่มีอยู่ไปในทางที่ผิดหลายครั้งก็อาจทำให้จิตใจของเราด้านชาขึ้นเรื่อยๆ เพราะถนอมน้ำใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง ลืมที่จะรักและเคารพความรู้สึกของตัวเอง สุดท้ายมันก็จะส่งผลให้เราไม่สนใจโลก ไม่แคร์ใคร ไร้หัวใจไปเลยนั่นเอง

ก็แค่เคารพความรู้สึกของตัวเอง มันไม่ยากนักหรอกใช่มั้ย!

Share.