แม้ว่าผักผลไม้จะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ที่ใครหลายคนแนะนำให้ทานให้มากๆ แต่หากเป็นผู้ป่วยในบางโรค มีผักผลไม้บางชนิดที่ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้

โรคไต
ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักผลไม้ที่มีสารของกรดออกซาลิกปริมาณสูง อาทิเช่น

– มันสำปะหลัง

– ดอกกะหล่ำ

– ผักโขม

– ปวยเล้ง
เป็นต้น

เนื่องจากกรดออกซาลิกสามารถจับกับแคลเซียมตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วที่ไต

นอกจากนี้ผู้ป่วยไตเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น

– หน่อไม้

– ใบขี้เหล็ก

– ทุเรียน

– มะละกอ
เป็นต้น

โรคธาลัสซีเมีย
ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคเลือดจางที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม มีปริมาณธาตุเหล็กสูง แต่ไม่สามารถนำมาสร้างเม็ดเลือดแดงเองได้ ทำให้เกิดภาวะธาตุเหล็กสูงในเลือดซึ่งเป็นอันตราย ฉะนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น

– ตับสัตว์

– เครื่องในสัตว์

รวมไปถึงผักผลไม้ที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น

– ผักกูด

– ถั่วฝักยาว

– ผักแว่น

– เห็ดฟาง

– ใบตำลึง

– ใบแมงลัก

– ส้ม
เป็นต้น

โรคไทรอยด์
ผู้ป่วยโรคไทรอยด์ สิ่งที่ผู้ป่วยกลุ่มนี้พึงระวังคือ พืชวงศ์ Cruciferae ได้แก่

– กะหล่ำปลี

– ทูนิป

– ฮอร์สแรดิช

– เมล็ดพรรณผักกาดชนิดต่างๆ

หากทานผักเหล่านี้ ผลที่เกิดขึ้นคือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายโดยการต้ม จึงควรรับประทานกะหล่ำปลีสุกดีกว่ากะหล่ำปลีดิบ

โรคกระเพาะ และลำไส้
ผู้ป่วยโรคกระเพาะและลำไส้ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคพริก เพราะจะทำให้กระเพาะอักเสบได้ และยิ่งผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งกระเพาะ หากกินพริกในปริมาณมากจะทำให้อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารเป็นมากขึ้น เนื่องจากพริกมีสารที่เรียกว่า แคปไซซิน ซึ่งทำให้เกิดความเผ็ดร้อน พบมากในส่วนของรกพริกและเมล็ดพริก ดังนั้นความเผ็ดของพริกจึงทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารและทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้

Share.