Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

“ขงจื้อ” เคยกล่าวไว้ คนเราไม่ควรขยันแบบผิดๆ รู้เเล้วคิดได้

“ขงจื๊อ” เคยกล่าวไว้เมื่อ 2,000 ปีก่อนว่า?

คนฉลาดและขยัน ควรส่งเสริมให้เป็นแม่ทัพ,

คนฉลาดและขี้เกียจ ควรเลี้ยงไว้เป็นทหารฝ่ายเสนาธิการวางแผนอยู่เบื้องหลัง,

คนโง่และขี้เกียจเก็บไว้ใช้สอยทำงานตามคำสั่งก็พอไหว,

แต่ถ้าเจอคนโง่และขยัน ต้องเอาไปตัดหัวทิ้งทันที

เพราะจะทำให้งานเสีย และก่อความเดือดร้อนไม่รู้จบ

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนฉลาด หรือคนโง่?การขยันแบบไม่รู้เวล่ำเวลา ขยันทำสิ่งผิดๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ดีแต่สร้างความเสียหายมากกว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ เริ่มตั้งแต่วันนี้ก็ยังไม่สาย เลิกซะทีวัฒนธรรมการทำงานแบบขยันผิดที่ผิดเวลา

เหตุผลดีๆ ที่คนเราไม่ควรขยันแบบผิดๆ คือ

ประการที่ 1 : การขยันทำงานที่เน้นแต่ปริมาณโดยไม่ใช้สมอง ไม่มีทางทำให้ได้งานดีมีคุณภาพ!! ลองเปลี่ยนวิธีทำงานซะใหม่ คิดให้ถี่ถ้วนก่อนลงมือทำ และจัดอันดับความสำคัญให้เป็น เชื่อสิครับว่างานจะเสร็จเร็วกว่าเดิมเยอะ แถมยังได้งานดีมีคุณภาพ ไม่ใช่สักแต่ทำไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จักวางแผนงาน

ประการที่ 2 : การโหมงานโต้รุ่ง และนอนดึกตื่นสาย ทำลายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพราะสมองที่เบลอไม่มีทางคิดอะไรออก เรื่องนี้คอนเฟิร์มโดย “เอเรียนนา ฮัฟฟิงตัน” คอลัมนิสต์ชื่อดังชาวอเมริกันเชื้อสายกรีก แห่งเว็บไซต์ฮัฟฟิงตัน โพสต์ ที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็นหนึ่งในผู้หญิงทรงอิทธิพลที่สุดในวงการสื่อโลก

ประการที่ 3 : การขยันทำงานตอนไฟลนก้นทำให้อารมณ์เสีย และทำลายความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง ลองจัดสรรเวลาทำงานใหม่ โดยเตรียมงานไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณจะไม่ต้องปรี๊ดแตกใส่ใครต่อใครให้เสียบรรยากาศ

ประการที่ 4 : ถ้าคุณเป็นเจ้านายคน ควรเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกน้อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการเวลา คนที่ทำงานเป็น ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ในออฟฟิศจนดึกดื่น เพื่อให้ได้ผลงานน้อยนิด

ประการที่ 5 : การขยันทำงานหามรุ่งหามค่ำบั่นทอนสุขภาพให้ทรุดโทรม ตัวอย่างสุดช็อกเกิดขึ้นปลายปีที่แล้ว เมื่อสาวน้อยก๊อบปี้ไรเตอร์โฆษณาชาวอินโดนีเซีย “มิต้า ดิแรน” วัย 24 ปี หัวใจวายตายคาโต๊ะหลังทำงานหนักติดต่อกัน 30 ชั่วโมง โดยไม่ได้หยุดพัก

ประการที่ 6 : หยุดคิดสักนิด แล้วจะรู้ว่างานส่วนใหญ่ที่บ้าทำตอนนี้ แทบไม่มีความสำคัญอะไรเลย มนุษย์เงินเดือนจำนวนมากก้มหน้าก้มตาทำงานซ้ำๆ อยู่ในออฟฟิศวันละหลายชั่วโมง โดยไม่เคยถามตัวเองว่า สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ มีประโยชน์กับชีวิตมากน้อยแค่ไหน ทำให้เราพัฒนาขึ้นหรือเปล่า และให้อะไรกับสังคมบ้าง?

ประการที่ 7 : ครอบครัวต้องมาก่อน อย่าปล่อยให้งานทำชีวิตพัง ความก้าวหน้าทางการงานอาจสำคัญสำหรับใครหลายๆ คน แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว เทียบไม่ได้เลยกับการมีครอบครัว อบอุ่นน่ารัก เพราะไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์ พวกเขาคือคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราจริงๆ

Share.