Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าการ “ลดน้ำหนัก” ที่ถูกวิธี และมีประสิทธิภาพที่สุด คือการออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร (รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อฟื้นฟูร่างกายด้วย) แต่ถ้าจะให้ออกกำลังกายไปเรื่อยๆ โดยไร้จุดหมาย เราอาจไม่รู้ว่าเราต้องออกกำลังกายแบบไหน เท่าไร เพื่อที่จะลดน้ำหนักให้ได้ตามเป้าหมาย เรามีข้อมูลจากรายงานสุขภาพพิเศษของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาฝากกัน

ออกกำลังกายแค่ไหน ลดน้ำหนักได้เท่าไร?
หากการคำนวณคร่าวๆ การที่จะลดน้ำหนักให้ได้ 1/2 กิโลกรัม ต้องออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานให้ได้ 3,500 กิโลแคลอรี่ ดังนั้นด้วยตัวเลขนี้จึงทำให้เราค้นพบว่า เราไม่สามารถออกกำลังกายภายในวันเดียว เพื่อลดน้ำหนักเพียง 1/2 กิโลกรัมได้ การลดน้ำหนักให้ได้ 1/2-1 กิโลกรัมต้องออกกำลังกายเป็นประจำวันเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน ดังนั้นการออกกำลังกายที่ให้ผลในเรื่องของการลดน้ำหนัก จึงต้องการ “ความต่อเนื่อง” มากกว่าการออกกำลังกายหนักๆ เพียงแค่วันสองวัน

ดังนั้น หากต้องการลดน้ำหนักให้ได้ 1/2 กิโลกรัม เราต้องออกกำลังกาย (คร่าวๆ) ให้ได้ตามนี้

1. เดิน หรือวิ่งเหยาะๆ ราว 1.6 กิโลเมตร จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ราว 100 กิโลแคลอรี่ (ตัวเลขอาจแตกต่างกันจากปัจจัยอื่นๆ เช่น น้ำหนักตัว หรือความเร็วในการเดินหรือวิ่ง) ดังนั้นหากเราเดินหรือวิ่งราว 56 กิโลเมตร จะสามารถลดน้ำหนักได้ 1/2 กิโลกรัม (ไม่รวมการควบคุมอาหาร หรือกิจกรรมอื่นๆ ในวันนั้น)

2. ถ้าเดินด้วยความเร็ว 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราว 30 นาที เป็นเวลา 5-7 วันต่อสัปดาห์ จะสามารถลดน้ำหนักได้คร่าวๆ 1/2 กิโลกรัมภายในเวลา 3 อาทิตย์ครึ่ง (หากทานอาหารในปริมาณแคลอรี่เท่าเดิมในทุกๆ วัน)

3. หากเลือกที่จะลดปริมาณอาหารในแต่ละวันลงราว 250 แคลอรี่ต่อวัน (เทียบเท่ากับไอศกรีม 1/2 ถ้วย หรือน้ำอัดลมสูตรปกติ 2 กระป๋อง) จะสามารถลดน้ำหนักได้คร่าวๆ 1/2 กิโลกรัมภายใน 2 สัปดาห์

4. หากลดอาหารในแต่ละวันลง 250 กิโลแคลอรี่ และเดิน 30 นาทีต่อวัน จะใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ในการลดน้ำหนัก 1/2 กิโลกรัม

หากลดปริมาณแคลอรี่จากอาหารลง และเพิ่มการออกกำลังกายให้มากขึ้น ก็จะสามารถลดน้ำหนักได้มากขึ้น ในเวลาที่น้อยลง แต่ถึงแม้ว่าจะลดปริมาณอาหารลง แค่อย่าลืมทานโปรตีนให้มากขึ้น ลดคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง (เลือกทานเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนแทน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต) เพิ่มผักผลไม้ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เลือกวิธีออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตัวเอง ไม่เบาและไม่หนักจนเกินไป อาศัยความต่อเนื่อง ครั้งละ 30-90 นาที อย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ และสุดท้าย พักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้น้ำหนักของคุณก็ค่อยๆ ลงลงเรื่อยๆ อย่างเป็นธรรมชาติได้แน่นอน

Share.