Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.


          ใครหนอที่มักซกมก น้ำท่าไม่ค่อยชอบอาบ อาจจะต้องชอบอกชอบใจกับบทความนี้ไม่น้อย ไม่ได้จะมาเขียนเข้าข้างประการใด แต่ต้องบอกตรงนี้ว่านักวิจัยมากมายต่างก็พุ่งเป้าหมายไปที่เดียวกันคือการอาบน้ำจนสะอาด หอมสบู่ หอมแชมพูฟรุ้งฟริ้ง เป็นการกระทำที่ไม่ได้ดี และ Gangbeauty ก็จะนำมาเล่าให้ฟังไว้ที่ตรงนี้เลยแล้วกันว่าถ้าวันหนึ่งเธอหยุดอาบน้ำจริงๆ ชีวิตจะเป็นยังไง!


pixabay.com
          โจเซฟ เมอร์โคลา (Joseph Mercola) แพทย์ผู้สนับสนุนการแพทย์ทางเลือกและเจ้าของเว็บไซต์ mercola.com ได้รวบรวมผลงานวิจัยหลายชิ้น แล้วทำการสรุปออกมาโดยง่ายว่าการอาบน้ำโดยเฉพาะฝักบัวนั้น แท้จริงแล้วเป็นการแทรกแซงกลไกการทำงานของร่างกายตามธรรมชาติ ที่ปกติแล้วมันสามารถทำลายจุลินทรีย์ด้วยตัวมันเองได้อยู่แล้ว อีกทั้งแรงฝักบัว ยังทำให้น้ำมันบนร่างกายที่ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น สลายหายไป


www.pexels.com
          แต่ถ้าไม่อาบเลย ก็จะรู้สึกหมักหมม เน่าเหม็น เป็นเหตุให้ทนไม่ได้จนสุดท้ายก็ต้องอาบน้ำ เจมส์ แฮมบลิน (James Hamblin) บรรณาธิการอาวุโสสำนักข่าว The Atlantic จึงได้ทำการทดลองร่วมด้วย เขาเริ่มต้นโดยการลดปริมาณการใช้แชมพู สบู่ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายตามบ้านทั่วไปลงทีละนิด และค่อยๆ ลดการอาบน้ำด้วยฝักบัวลง จากนั้นเขาก็ลดการอาบน้ำ จากวันละครั้ง เป็นวันเว้น เป็นสามวันครั้ง จนกระทั่งเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เคยใช้ไปทั้งหมด ไม่ทำความสะอาดอีกเลย เขาล้างแค่มืออย่างเดียวเพราะคิดว่านั่นคือสิ่งที่ยังจำเป็น

          เขาพบว่า ในช่วงแรกของการเปลี่ยนพฤติกรรม ร่างกายและเส้นผมมีกลิ่นค่อนข้างแรงมาก ทว่าหลังจากอดทนไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ กลิ่นเหม็นบนร่างกายของเขากลับหายไป เหตุผลก็เพราะสบู่และแชมพูที่เราใช้อยู่ในทุกวัน มันเข้าไปทำลายผิวหนังให้เหลือแต่แบคทีเรียที่ไม่ดี ดังนั้นเมื่อเราหยุุดทำลายผิวหนังด้วยการเลิกใช้สบู่และแชมพู กลไกของร่างกายก็จะค่อยๆ ฟื้น และกลับมาทำความสะอาดร่างกายด้วยแบคทีเรียที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองได้อีกครั้ง


pxhere.com


maxpixel.freegreatpicture.com
          แต่การหักดิบ ไม่อาบน้ำเลยในทันทีก็คงจะเป็นความคิดที่สุดโต่งมากจนเกินไป แคสซีย์ คาลอส (Casey Carlos) อาจารย์ประจำคณะผิวหนังวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย จึงได้ให้คำแนะนำว่าการทำความสะอาดร่างกายนั้น เพียงแค่ใช้น้ำเปล่า ถูบริเวณซอกต่างๆ เช่น ข้อพับ จุดซ่อนเร้น ง่ามเท้า หรือจุดอับใดๆ ก็ถือว่าสะอาดแล้ว หรือถ้าก่อนหน้านี้ ทำกิจกรรมคลุกฝุ่นอย่างบ้าคลั่ง เพียงราดน้ำเปล่า ชะล้างฝุ่นเหล่านั้นให้หลุดออกจากร่างกาย ก็นับว่าเพียงพอต่อกลไกของร่างกายแล้วล่ะ


pixnio.com

ประยุกต์ใช้ในชีวิตให้ถูกก็แล้วกัน ถามคนนอนข้างๆ ด้วยก็ดีนะ อิอิ

Share.