Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

การทานอาหารหนักๆก่อนนอน นอนจากจะเพิ่มน้ำหนักตัวแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย ทั้งทำให้นอนไม่หลับ แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อไตทำงานหนัก เพราะฉะนั้นเราควรหลีกเลี่ยง 14 อาหารต่อไปนี้ หรือควรทานก่อนเวลานอนหลายๆชั่วโมง !!!

1. เนื้อสัตว์ย่อยยาก

หากใครเลือกเมนูสเต๊กหรือปิ้งย่างแบบไม่จำกัดเวลา นั่งยาวไปจนสามสี่ทุ่ม กลับบ้านก็อาบน้ำนอน เชื่อว่าต้องเคยสัมผัสกับความรู้สึกจุกไม่มากก็น้อย เผลอๆ นอนอยู่ดีๆ อาจรู้สึกถึงน้ำย่อยเปรี้ยวๆ ไหลขึ้นคอมาอีกต่างหาก นั่นก็เป็นเพราะว่า เนื้อสัตว์ย่อยยากเหล่านี้โดยเฉพาะเนื้อวัว เนื้อสันใน เนื้อชิ้นหนาๆ ในรูปแบบสเต๊ก ร่างกายเราต้องใช้เวลาในการย่อยค่อนข้างนาน น้ำย่อยจำเป็นต้องถูกหลั่งออกมามาก โอกาสที่น้ำย่อยหรือกรดในกระเพาะอาหารจะไหลย้อนกลับไปที่หลอดอาหารจึงมีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว

2. อาหารรสจัด

ถ้าคุณมักจะกินอาหารรสจัด ประเภทยำต่างๆ ส้มตำ ต้มยำ ลาบ อาหารที่มีรสจัดทั้งหลาย เมนูดังกล่าวจะกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร อีกทั้งความเผ็ดร้อนของรสชาติอาหารยังอาจทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการระคายเคืองอีกด้วยนะคะ เท่ากับว่านอกจากจะเสี่ยงโรคกรดไหลย้อนแล้ว ยังอาจได้แผลในกระเพาะอาหารแถมมาด้วยแบบที่ไม่ถงไม่ถามสุขภาพสักคำ

3. อาหารทอดๆ อาหารไขมันสูง

ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด หมูหัน หมูทอด ไข่เจียว หรืออาหารทอดๆ ทั้งหลายก็ไม่ควรกินก่อนนอนค่ะ เพราะนอกจากอาหารไขมันสูงจะให้พลังงานสูงแล้ว เมนูเหล่านี้ยังก่อให้เกิดภาวะไขมันสะสมจนน้ำหนักขึ้นได้ (ในกรณีที่กินแต่ไม่ค่อยออกกำลังกาย) ดังนั้นขั้นแรกก็รับไปเลยกับความอ้วน ส่วนอีกข้อเสียคือ อาหารไขมันสูงเป็นอาหารที่ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยค่อนข้างนาน ซึ่งเท่ากับว่าน้ำย่อยก็ต้องหลั่งออกมาจนกว่าอาหารเหล่านี้จะถูกย่อยไปจนหมด ฉะนั้นหากกินอาหารไขมันสูงก่อนนอน รับรองว่ามีความเสี่ยงโรคกรดไหลย้อนเพิ่มขึ้นแน่นอน


4. อาหารหมักดอง

อาหารหมักดองอย่างปลาร้า หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม กิมจิ ซูชิบางชนิดที่มีผักดอง ก็มีส่วนเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร ก่อให้เกิดอาการจุดเสียดแน่นท้องจากภาวะกรดเกินได้เหมือนกันนะคะ ยิ่งถ้ากินอาหารหมักดองก่อนเข้านอนด้วยแล้ว ท้องไส้คงปั่นป่วนจนนอนหลับได้ไม่สนิทแน่ๆ และความอันตรายที่แท้ทรูก็คือ อาจจะเสี่ยงเกิดอาการกรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอกอีกต่างหาก

5. พิซซ่า

ในวันที่ขี้เกียจออกไปไหน หลายคนมักจะฝากท้องไว้กับพิซซ่า เพราะคิดเอาเองว่ากินพิซซ่าก็ได้ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน แถมยังมีผัก มีชีส มีซอส ดูเหมือนจะมีสารอาหารครบดีจริงไหมคะ แต่ทั้งชีส แป้งพิซซ่าซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว และซอสมะเขือเทศซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดในตัวเอง เครื่องปรุงและวัตถุดิบเหล่านี้แหละที่กระเพาะต้องหลั่งน้ำย่อยออกมามากๆ เพื่อพยายามย่อยอาหารให้หมดๆ ไป สุดท้าย กรดที่ถูกหลั่งออกมาย่อยพิซซ่า ก็อาจกลับมาเล่นงานตัวเราเองก็ได้

6. ผักบางชนิด

เช่น บรอกโคลี กะหล่ำ หัวหอมใหญ่ดิบ กระเทียม พริก พริกไทย สะระแหน่ หอมแดง เปปเปอร์มินต์ รวมไปถึงผักดิบทุกชนิดก็ไม่ควรรับประทานก่อนนอน เนื่องจากผักดิบโดยเฉพาะผักที่เรายกตัวอย่างข้างต้น จัดเป็นผักที่มีกรดและแก๊สมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด เนื่องจากกรดเกินในกระเพาะอาหาร ที่สำคัญหากกินอาหารประเภทนี้แล้วนอนภายใน 2 ชั่วโมง กรดและแก๊สอาจไหลย้อนกลับทำให้เป็นโรคกรดไหลย้อนในที่สุด

7. ผลไม้บางชนิด

นอกจากผักแล้ว ผลไม้ที่มีกรดมากอย่างส้ม องุ่น มะนาว เลมอน มะเขือเทศ สับปะรด หรือแม้กระทั่งน้ำผลไม้รสเปรี้ยวจัด รวมทั้งซอสมะเขือเทศ ผลไม้เหล่านี้มีกรดเยอะนะคะ ยิ่งในซอสมะเขือเทศที่มักจะเติมน้ำส้มสายชูซึ่งก็เป็นกรดเข้าไปด้วย กรดในกระเพาะอาหารก็จะยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้น จนก่อความไม่สบายท้องไส้ นอนหลับกระสับกระส่าย รวมไปถึงมีโอกาสที่กรดเกินในกระเพาะอาหารจะกลายเป็นกรดไหลย้อนให้ทรมานอีกด้วย

8. ไอศกรีม

ดูเป็นอาหารว่างหลังมื้อเย็นที่ใครๆ ก็กินกัน โดยหารู้ไม่ว่า ไอศกรีมเป็นของหวานที่ไขมันสูงพอตัวเลยล่ะค่ะ ยิ่งหากใครกินไอศกรีมรสช็อกโกแลต รสกาแฟ มอคค่า หรือกินไอศกรีมกะทิมันๆ ก่อนเข้านอนก่อนเพียงไม่กี่ชั่วโมง บอกเลยว่ากระเพาะอาหารยังย่อยไขมันเหล่านี้ไม่หมดเลยจ้า กรดและน้ำย่อยยังคงถูกปล่อยออกมาอยู่ ซึ่งเมื่อล้มตัวลงนอนเมื่อไร กรดและน้ำย่อยอาจไหลย้อนกลับก่อให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกขึ้นมาได้ง่ายๆ

9. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหย่อนยาน ร่างกายจึงจะไม่สามารถกักเก็บอาหารไว้ได้และมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคกรดไหลย้อน

10. โซดา

อย่ามองข้ามน้ำใสๆอย่างโซดา เพราะไม่มีเครื่องดื่มชนิดใดให้ความเป็นกรดได้มากกว่าโซดาอีกแล้ว และกรดนี้จะสร้างความเสียหายให้แก่หูรูดได้เช่นกัน อีกทั้งการเกิดคาร์บอเนตจะยิ่งเพิ่มความดันในกระเพาะอาหารอีกด้วย

11. น้ำอัดลม

ขึ้นชื่อว่าน้ำอัดลม รสชาติซ่าๆ ก็บอกให้เรารู้แล้วว่าเครื่องดื่มเหล่านี้มีส่วนผสมของแก๊สเยอะ อันเป็นสาเหตุสำคัญของอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และทำให้ระบบย่อยอาหารของเราปั่นป่วนไปหมด ดังนั้นใครที่ชอบดื่มน้ำอัดลมหลังมื้อเย็นและก่อนเข้านอน เตรียมตัวรับมือกับอาการกรดไหลย้อนไว้บ้างก็ดีนะคะ

12. ชา กาแฟ

ในกาแฟจะมีความเป็นกรดสูง แถมสารคาเฟอีนในกาแฟยังสามารถสร้างกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย และที่สำคัญหากกินในเวลากลางคืน ก็อาจจะทำให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นไม่ควรกินกาแฟในช่วงเวลากลางคืนเป็นอันขาด

13. ถั่ว

แม้ว่าโดยทั่วไปถั่วจะมีไขมันตัวดีแต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานก่อนนอนเช่นกัน เพราะไขมันในถั่วอาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดแย่ได้

14. ช็อคโกแลต

เนื่องจากช็อคโกแลตมีคาเฟอีนและสารกระตุ้นที่ชื่อว่าทีโอโบรมีนที่อาจทำให้ไตเสียหายเฉียบพลัน อีกทั้งบางรสชาติอาจมีไขมันสูงจนทำให้กล้ามเนื้อหูรูดซึ่งเชื่อมต่อระหว่างกระเพาะอาหารกับหลอดอาหารหย่อนยานอีกด้วย

Share.