Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.


หลังจากที่เข้าสู่ช่วงหน้าฝนอย่างเป็นทางการ นอกจากการจราจรจะติดจัด เดินทางลำบากมากขึ้นแล้ว หลายๆ คนน่าจะเจอกับปัญหางานบ้านสุดปวดหัว อย่างการซักผ้าเป็นแน่การซักผ้าในหน้าฝนนั้น นอกจากผ้าจะแห้งช้าแล้ว บางครั้งอาจเกิดเชื้อราขึ้นบนเนื้อผ้า และมีปัญหาเรื่องกลิ่นอับบนเสื้อผ้าได้   แต่หากบ้านไหนมีเครื่องอบก็อุ่นใจขึ้นมาหน่อย แต่หากไม่มีเครื่องอบล่ะ จะทำยังไงถึงแม้ว่าสาวๆ จะไม่ไม่มีเครื่องอบผ้าก็ตาม คราวนี้ เราก็ไม่ต้องมาคอยห่วงแล้วล่ะค่ะ ว่าเสื้อผ้าจะไม่แห้ง เรียกว่าต่อให้ฝนตกกระหน่ำเท่าไหร่ ก็จะไม่เป็นอุปสรรคต่อเสื้อผ้าของสาวๆ อย่างแน่นอนค่ะ

บิดและสบัดผ้าหรือปั่นผ้า ให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้
สิ่งแรกที่ควรทำเพื่อให้ผ้าแห้งเร็วมากที่สุด คือการบิดเอาน้ำออกให้มากที่สุด เท่าที่ทำได้ ยิ่งน้ำออกได้มากเท่าไหร่ อัตราความแห้งของผ้าก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้นค่ะ โดยเฉพาะคนที่ซักผ้าด้วยมือ จะต้องออกแรงตัวเอง บิดแล้วก็บิด จากนั้น ก็สะบัดผ้าแรงๆ 2 3 ครั้งก่อนจะตาก แต่ถ้าใครซักด้วยเครื่องซักผ้า กดปั่นผ้าให้ผ้าแห้งสนิทมากเท่าไหร่ยิ่งดี หากรอบแรกยังไม่แห้งดี ให้ปั่นแห้งอีกซักรอบ


ภาพจาก   pixabay
ตากผ้าในห้องแอร์หรือใช้พัดลมช่วยเป่า
จริงๆ แล้วการตากผ้าในห้องแอร์ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วค่ะ เพราะอากาศในห้องเอร์ค่อนข้างแห้งและเย็น จึงทำให้ผ้าของเราแห้งได้โดยง่าย และพัดลมหรือตรงคอมเพรสเซอร์แอร์ก็เป็นอีกหนทางที่ช่วยให้ผ้าของเราแห้งเร็วได้เช่นกันค่ะ ยิ่งถ้าสาวๆ บิดและสะบัดผ้าแบบวิธีแรกรวมกับการตากในห้องแอร์หรือพัดลม ก็จะช่วยให้ผ้าแห้งเร็วแถมยังลดกลิ่นอับได้ด้วยค่ะ

ไม่แช่ผ้าค้างคืน
ความรู้สึกว่าการแช่ผ้ายิ่งนานแบบค้างคืน เสื้อผ้ายิ่งสะอาดหมดจด แต่กลับเป็นการหมักผ้า ทำให้แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในวันที่แสงแดดไม่เป็นใจ


ภาพจาก   pixabay
ผสมน้ำส้มสายชู
ถ้าเสื้อผ้าของหนูน้อยมีกลิ่นอับแล้ว ก่อนนำไปซักให้นำผ้าเหล่านี้ไปแช่น้ำที่ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงต่อน้ำ 1 แกลอน สัก 2-3 ชั่วโมง ก่อนนำไปซักกับน้ำยาซักผ้าตามปกติ

แยกผ้าชิ้นไหนสำคัญ ซักก่อนเลย
เริ่มจากจัดลำดับผ้าที่ควรซักก่อนเลยค่ะ ถ้าชิ้นไหนมีน้อย อย่างเสื้อทำงานคุณสามี เสื้อนักเรียนลูก ชุดชั้นใน ต้องรีบใช้ ก็เอาไปซักก่อน ข้อสำคัญเลยคือให้ทยอยซัก ทีละน้อย เวลาตากผ้าจะได้ไม่แน่น ระบายอากาศได้ทั่วถึง ผ้าก็จะแห้งเร็วขึ้น แถมช่วยประหยัดเวลาซักได้เยอะเลย


ภาพจาก   pixabay
ใช้ไดร์เป่าผมแทนก็ได้นะ
หากวันไหนที่เร่งรีบปั่นผ้าแล้วผ้ายังชื้นๆอยู่นิดหน่อย คุณสามารถเอาไดร์เป่าผมช่วยเป่าเพื่อให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นอีกด้วยนะ รับรองแห้งสนิทไม่เหม็นอับ

เลือกใช้บริเวณที่แสงส่องถึง
ถ้าเราอยู่บ้านเดี๋ยวก็คงไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าอยู่หอพักหรือคอนโด สถานที่โล่งที่พอจะตากผ้านั้นดูจะมีไม่มากนัก ให้คุณเลือกพื้นที่ตามระเบียงเป็นที่ตากผ้าก็ได้ค่ะ โดยย้ายราวตากผ้าของเราไปไว้ที่ริมระเบียงจุดที่แดดพอจะส่องถึง และอากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก เท่านี้ก็ช่วยให้เสื้อผ้าที่เราตากนั้นแห้งไวและยังหอมกลิ่นแดดอ่อนๆ อีกด้วย


ภาพจาก   pixabay


ภาพจาก   pixabay

Share.