วิถีชีวิตคนจริงมีดีในตัว แต่ไม่พูดโอ้อเจเอาดีเข้าตัว
วิถีชีวิตคนจริงมีดีในตัว แต่ไม่พูดโอ้อเจเอาดีเข้าตัว
สำนวน “น้ำนิ่งไพ่” ดูรายละเอียด

แต่ด้านใต้ผิวน้ำนั้นใครจะรู้ว่าน้ำไหลแรงเพียงใด

คนที่เหมือนกันทั้งนั้น

เป็นคนที่มีประสบการณ์โชคโชคมีความรู้ความสามารถมาก

แต่ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความต้องการเพื่อจะแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่อาจเป็นได้ในตอนนี้

มีเรื่องเล่าว่า … วันหนึ่งพ่อชวนลูกออกไปเล่นยังชายป่า

พอถึงทางเดินแล้วก็ถามลูกว่า …

“เสียงนกร้องแล้วได้ยินเสียงอีก”

ลูกหยุดเดินแล้วเงี่ยหูฟังก่อนจะตอบว่า …

“เสียงนกร้องแล้วยังมีรถแข่งม้าอยู่”

พ่อบอกว่า … “ถูกต้องและเป็นรถม้าที่ไม่ได้รับอะไร”

ลูกเป็นคนขับรถม้าเปล่า ”

พ่อตอบว่า … “ฟังจากเสียงจะเท่าไหร่เพราะรถม้ายิ่งกว่านั้นเสียงก็ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นเท่าไหร่พูดจาโอ้อวด”

พอเด็กน้อยโตขึ้นทุกครั้งที่เจอคนที่ชอบคุยโม้โอ้อเจอร์

ไม่มีใครอยู่ในสายตา

เขามักจะมีความรู้สึกเหมือนพ่อมายืนกระซิบอยู่ข้างหูว่า ..

“รถม้ายิ่งเหลือไม่ได้เสียงจะยิ่งใหญ่กว่า

คนที่กำลังเดินข้ามแม่น้ำห้วยลำธารก่อนที่จะลุยลงน้ำ

เขามักหยิบก้อนหินขึ้นมาก้อนหนึ่งแล้วปาไปกลางน้ำ

เพื่อเป็นการคาดคะเนความลึกของน้ำ

ละอองน้ำยิ่งใหญ่ขึ้นเท่าไหร่น้ำในลำธารก็ยิ่งเหลือเกินเท่านั้น

ในละอองน้ำเกลือขึ้นมายิ่งน้อย

แล้วยังบวกกับกระแสน้ำที่ไหลเงียบสนิท

ฉันไม่รู้ว่าฉันจะรักฉัน …

น้ำท้องขึ้นเสียงโห่ … “รถม้ายิ่งเหลือก็จะยิ่งดัง”

วิถีของคนจริงคนที่มีความดีจะไม่ทำตัวให้โดดเด่นไม่เด่น

หากพบสิ่งเหล่านี้กับบุคคลที่เราพบเจอจะสังเกตุได้ว่า

คนใจเย็นเวลาพูดคุยกับคนอื่น

และยังสามารถซึมซับรับรู้ถึงความคิดเห็นของคนอื่น

แทนที่จะดันทุรังเอาแต่ยัดเยียดความคิดเห็นตนเป็นใหญ่อยู่ฝ่ายเดียว

คนที่มองไม่เห็นตะปูบนพื้นฉันใด

คนที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลฉันนั้น

คนที่ไม่มีอะไรในชีวิตมักจะพูดจาโอ้อวดใหญ่โตเพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ตัวเองขาด

Cr บทความจาก: ขจรศักดิ์

Share.