Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

การดูแลเส้นผมให้นุ่มสลวยและลดปัญหาผมขาดร่วงนั้น นอกเหนือไปจากการดูแลด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของแต่ละคนแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการหวีผม ซึ่งจะช่วยถนอมเส้นผมให้แลดูสุขภาพดี ลดการขาดร่วง ผมนุ่มสลวย แล้วเคล็ดลับการหวีผมที่ถูกต้องควรทำอย่างไรบ้าง.. อย่ารอช้าค่ะ ไปดูวิธีหวีผมที่ช่วยถนอมผมสวย ลดการขาดร่วงไปพร้อมๆ กันเลย

1.ไม่หวีผมจากโคนถึงปลายอย่างรุนแรง

หลายๆ คนชอบหวีผมโดยเน้นหวีจากโคนผมลากยาวไปจนถึงปลายผมเพียงหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักสำคัญที่ทำให้ผมพันกันหรือเกิดการแตกหักหลุดร่วง หนังศีรษะถูกทำร้ายจากแรงเสียดสีของหวีอย่างรุนแรง จนอาจเกิดการอักเสบที่นำไปสู่ปัญหาหนังศีรษะเป็นแผลและรังแคตามมา แนะนำให้สาวๆ เปลี่ยนวิธีการหวีผมใหม่ โดยค่อยๆ หวีจากส่วนปลาย สางให้ส่วนที่พันกันคลายก่อน แล้วหวีไล่ระดับความสูงขึ้นไปทีละรอบแบบเบามือจนถึงโคนผม วิธีนี้จะช่วยถนอมเส้นผมไม่ให้แตกหักถูกทำร้าย ลดปัญหาผมร่วงได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ

2. อย่าหวีผมบ่อยเกินไป

จริงอยู่ที่การหวีผมคือการนวดศีรษะกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือด กระชับรูขุมขนบนหนังศีรษะ และช่วยกระตุ้นทำให้ผมดูสุขภาพดี แต่การหวีผมบ่อยๆ ตลอดทั้งวันเกินความพอดีแทนที่จะเกิดประโยชน์กลับทำให้หนังศีรษะถูกทำร้าย เกล็ดผมเสียหาย ส่งผลให้ผมแตกปลายแห้งเสียได้ง่าย หนังศีรษะบอบบาง เกิดแผล และกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรีย เอาเป็นว่าหวีแบบพอดีๆ พอให้ผมพลิ้วสลวยเพื่อสุขภาพผมที่ดีในระยะยาวดีกว่านะคะ

3.เลือกใช้หวีให้เหมาะกับการใช้งาน

หวีมีหลายแบบ และการใช้หวีให้ถูกประเภทการใช้งานก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยถนอมเส้นผมไม่ให้ถูกทำร้ายได้ และอีกส่วนหนึ่งที่มีผลคือชนิดของวัสดุที่นำมาทำหวีก็ส่งผลต่อความแข็งแรงของเส้นผมเช่นกัน สาวๆ ควรเลือกใช้หวีที่ทำจากไม้แทนหวีพลาสติก เพื่อลดการหลุดร่วงของเส้นผม หลีกเลี่ยงหวีถี่ๆ ติดกันจนแน่นเกินไป เพราะเมื่อนำมาหวีผมอาจเกิดการใช้แรงดึงที่ส่งผลให้เส้นผมและรูขุมขนบนหนังศีรษะเสียหาย ทำให้ผมเกิดการหลุดร่วง กลายเป็นปัญหาหงุดหงิดน่ารำคาญใจ

4. หมั่นทำความสะอาดหวีบ่อยๆ

เมื่อหวีใช้ไปนานๆ ย่อมมีสิ่งสกปรกจากหนังศีรษะหรือเส้นผมติดอยู่ การดูแลความสะอาดหวีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะหากเรานำหวีที่สกปรกไปหวีผม ศีรษะของเราก็จะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุเชื้อโรค อาจก่อให้เกิดปัญหาเชื้อราบนหนังศีรษะ ผมขาดหลุดร่วง และเป็นรังแคได้ง่าย ดังนั้นแนะนำให้หมั่นทำความสะอาดหวีบ้าง โดยนำมาแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมสบู่หรือแช่ในน้ำผสมแชมพูแล้วล้างออกให้สะอาด จากนั้นเป่าไดร์ให้แห้งหรือนำไปตากแดดฆ่าเชื้อ เพียงเท่านี้ก็สามารถนำมาใช้งานใหม่ได้แล้วค่ะ

5. ถนอมเส้นผมหลังสระด้วยการหวีเมื่อผมแห้ง

หลังจากสระผมเสร็จมีหลายคนมักจะหวีผมในขณะที่ผมเปียก เพราะเข้าใจว่าผมหลังสระจะนุ่มสลวยหวีง่ายกว่าตอนผมแห้ง แต่ความเป็นจริงการหวีตอนผมเปียกๆ เป็นตัวการทำร้ายเส้นผมอย่างรุนแรง ทำให้ผมขาดออกจากกันโดยที่เราไม่รู้ตัว และอาจทำให้ผมเกิดไฟฟ้าสถิตย์ได้ง่ายขึ้น แนะนำให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ เป่าไดร์ให้แห้งก่อน แล้วจึงหวีผมเบาๆ

หากใครยังหาทางออกในการแก้ปัญหาผมเสียหลุดร่วงไม่ได้สักที ลองทริคนี้ไปทำตามดูนะคะ บางทีเส้นผมของเราอาจไม่ได้ต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่มีราคาแพง เพียงแค่เราหันมาใส่ใจกับการดูแลเล็กๆ น้อยๆ ปัญหานี้ก็อาจจะแก้ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเปลืองเงินเลยค่ะ

Share.