Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

ว่าด้วยเรื่อง “ผายลม” เรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นในทุกๆ วันของคนเราทุกคน แต่การเป็นสาวเป็นนางที่มาพร้อมใบหน้าอันแสนสวยของเรานั้นจะผายลมแต่ละทีก็ต้องแอบๆ แบบมีมารยาทเล็กน้อย ยิ่งอยู่ท่ามกลางผู้คนการผายลมเสียงดัง แถมยังมีกลิ่นเหม็นเนี่ยคงสร้างความอับอายให้กับเราเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่มีกลิ่นผายลมส่งกลิ่นรุนแรง มาพร้อมความถี่บ่อยๆ ก็มาจากอาหารการกินของเราเป็นหลักนั่นแหละ ดังนั้นหากสาวๆ ไม่อยากสร้างความอับอายเพราะกลิ่นผายลม ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้โดยด่วนเลย!!

1. ขนมปัง

แป้งสาลีหรือขนมปังคือตัวการที่ทำให้ตดมีกลิ่นเหม็น เนื่องจากมีส่วนผสมของกลูเตนและแป้งที่เปลี่ยนไปเป็นน้ำตาล ส่งผลให้เกิดลมในลำไส้ ทำให้เราผายลมบ่อยขึ้น เสียงดัง และมีกลิ่นตุๆ ที่ไม่ค่อยดีต่อใจ เอาเป็นว่ากินน้อยๆ แต่พอดีล่ะกัน

2. สปาเก็ตตี้

เส้นสปาเก็ตตี้มีส่วนผสมของแป้งสาลีที่มีกลูเตนทำให้เกิดลมในลำไส้ และซอสสปาเก็ตตี้ทั้งหลายยังทำมาจากชีสและนมที่เป็นตัวการเกิดกระบวนการหมัก ทำให้เกิดของเสียหมักหมมในระบบลำไส้ได้ง่าย เมื่อเกิดการหมักหมมได้ที่ก็เกิดลม ส่งผลให้ผายลมและยังส่งกลิ่นเหม็นตามมาอีกด้วย

3. น้ำแอปเปิ้ล

น้ำแอปเปิ้ลมีน้ำตาลฟรุกโตสซึ่งทำให้เกิดแก๊สในท้องขณะย่อย เมื่อทานเยอะๆ จะทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง อาจเกิดอาการท้องเสีย เมื่อแก๊สสะสมมากเข้าก็จะพยายามขับออกมาในรูปแบบการผายลมที่อาจส่งกลิ่นและเสียงได้

4. มันเทศ

มันเทศเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตชั้นดี แต่เป็นเมนูที่ย่อยยาก เนื่องจากมีสารแมนนิทอลซึ่งร่างกายดูดซับยาก ทำให้เกิดการหมักโดยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ เป็นสาเหตุให้มีแก๊สในกระเพาะจนเกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง และลำไส้แปรปรวน นอกจากนี้มันเทศยังมีกากใยสูงจึงทำให้ย่อยยาก กลายเป็นแก๊สสะสมที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมา

5. ลูกเกด

ลูกเกดมีน้ำตาลฟรุกโตสในปริมาณเข้มข้นสูง ทำให้ลำไส้นำไปใช้งานได้ช้า สำหรับผู้ที่มักมีปัญหาในเรื่องของระบบทางเดินอาหาร การทานลูกเกดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้ท้องเสียหรือไม่สบายท้องได้ และพอลำไส้ดูดซึมได้ช้าก็เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ส่งผลให้ผายลมได้ง่ายนั่นเอง

6. กล้วย

กล้วยสุกงอมเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรุกโตสในปริมาณที่สูงมาก เมื่อเทียบกับกล้วยดิบหรือกล้วยที่ใกล้สุกกลางๆ การทานกล้วยมากๆ จึงอาจทำให้เกิดแก๊สในท้องขณะย่อย เมื่อเคลื่อนตัวไปสู่ระบบย่อยอาหารผ่านลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย และขับออกมาในรูปแบบของการผายลมในที่สุด

7. หัวหอม

หัวหอมก็เป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่มีน้ำตาลฟรุกโตสที่ย่อยยากอยู่เป็นจำนวนมาก การบริโภคหัวหอมจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแก๊สในท้องขณะที่ร่างกายกำลังย่อยอาหาร เกิดกลิ่นผายลมที่ทำเอาปิดจมูกแทบไม่ทันเลยทีเดียว

8. นมถั่วเหลือง / เต้าหู้

ถั่วเหลืองหรือเต้าหู้มีกาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Galacto-oligosaccharides) และน้ำตาลฟรุกโตส ตัวการสำคัญที่ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี ลำไส้ดูดซึมและนำไปใช้ได้ยาก ซึ่งเมื่อทานมากๆ จะมีแนวโน้มทำให้ท้องอืดหรือผายลมง่ายและบ่อยครั้ง


9. ถั่วพิสตาชิโอ

ถั่วพิสตาชิโอก็มีกาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Galacto-oligosaccharides) อยู่เช่นกัน รวมถึงน้ำตาลฟรุกโตสและน้ำตาลแรฟฟิโนส อีกทั้งประกอบด้วยเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำ ถูกย่อยและขับผ่านในลำไส้ได้ยาก ทำให้เกิดแก๊สและรู้สึกไม่สบายท้อง ซึ่งเกิดจากเจ้าจุลินทรีย์ตัวเล็กๆ ช่วยกันทำงานหนักเพื่อย่อยอาหารเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแก๊ส ส่งกลิ่นผายลมเหม็นๆ หากใครชอบทานเตรียมใจรับมือกับกลิ่นและเสียงไว้ล่วงหน้าได้เลย

10. เห็ด

การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพไม่ได้ความหมายว่าจะช่วยทำให้กลิ่นผายลมเหม็นน้อยลงแต่อย่างใด เพราะนักวิชาการด้านโภชนาการออกมาบอกเองว่า เห็ดที่มีสรรพคุณดีงามล้านแปดเนี่ยหากทานมากๆ สามารถเป็นสาเหตุหลักที่อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือเกิดแก๊สในกระเพาะอาหารได้ดีเลยทีเดียว แน่นอนว่ามันดีต่อสุขภาพ แต่ก็ต้องแลกกับกลิ่นผายลมตุๆ ด้วยนะ

11. กระเทียม

นอกจากกระเทียมจะมีน้ำตาลฟรุกโตสที่ย่อยยากอยู่ในปริมาณสูงแล้ว ยังมีธาตุกำมะถันหรือซัลเฟตที่สูงมาก ซึ่งเป็นตัวการหลักทำให้เกิดแก๊สสะสมอยู่ในกระเพาะอาหาร กระเทียมเป็นตัวที่ทำให้เกิดกลิ่นรุนแรงมาก นอกจากกลิ่นผายลมแล้ว ยังมาพร้อมกับกลิ่นเรอที่อบอวล ทำเอาเสียความมั่นใจ ดังนั้นถ้ารู้ว่าต้องไปเจอคนเยอะๆ เลี่ยงกระเทียมไว้จะดีกว่า

12. ต้นหอม

นอกจากหัวหอมและหอมแดงแล้ว ต้นหอมนี่แหละที่ทำให้เกิดกลิ่นผายลม เพราะต้นหอมเป็นผักที่มีเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำ ส่งผลต่อกระบวนการหมักของจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอัดแน่นมากๆ จึงระเบิดกลายเป็นเสียงผายลมและกลิ่นเหม็นมาทักทาย

13. เนื้อสัตว์

แหล่งโปรตีนสูงของอร่อยอย่างเนื้อสัตว์ก็ถูกจัดโพลติดอันดับกับเขาเช่นกัน เพราะเนื้อสัตว์เป็นโปรตีนที่ย่อยยากมากจึงทำให้เกิดกระบวนการหมักในกระเพราะ ลำไส้ดูดซึมได้ช้า เกิดลมในกระเพาะ เมื่อทานเยอะๆ จะแน่นท้องหรือท้องอืด หนักสุดคือกลิ่นที่เหม็นอย่างรุนแรง ควรทานแบบพอดีควบคู่ไปกับการทานผักที่ย่อยง่ายดีกว่านะคะ

14. นม

นมและผลิตภัณฑ์จากนมเป็นอีกเมนูที่ย่อยยาก เนื่องจากนมเป็นแหล่งโปรตีนสูง ส่งผลรุนแรงที่สุดสำหรับคนที่มีเอนไซม์แลคเตสไม่เพียงพอในการย่อยน้ำตาลแลคโตสในนม รวมไปถึงอาหารที่ทำจากนมอย่างไอศกรีม ชีส หรืออาหารทั้งหมดทั้งมวลที่มีแลคโตส ซึ่งอาจทำให้เกิดแก๊สและมีอาการปวดท้องได้

ของโปรดแสนอร่อยทั้งนั้นเลยใช่ไหมคะ ให้เลิกทานคงเป็นไปได้ยาก ของอร่อยดีต่อใจทั้งนั้น เอาเป็นว่าวันไหนต้องไปอยู่ท่ามกลางผู้คนเยอะๆ ก็ระมัดระวังหลีกเลี่ยงการทานอาหารเหล่านี้ให้น้อยลง ป้องกันวงแตกเอาไว้ล่วงหน้าละกันค่ะ

Share.